วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไขปัญหาหนังไม่มีภาพ เพลงไม่มีเสียง

ไอคอนลำโพงหายไปไหน...???
ช่วยด้วยครับ ลำโพงตรงทาส์กบาร์ด้านล่างขวาสุดหายไป ทำยังไงจึงจะให้มีรูปลำโพงปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้ผมไม่สามารถปรับสียงได้เลย วานช่วยหาวิธีการแก้ไขให้ทีครับ หลายคนเมื่อเจอปัญหานี้ก็มักตกอกตกใจ คิดว่าวินโดวน์เจ็งอีกแล้ว จริง ๆ แล้วปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นมาได้ 2 กรณีคือ
- ไดรเวอร์การ์ดเสียงหายไป
- กำหนดให้ไอคอนลำโพงไม่แสดงขึ้นมา
โดยในกรณีแรกนั้นอาจเกิดจากไดรเวอร์การ์ดเสียงหายไป ทางแก้ไขก็ให้ทำการติดตั้งไดรเวอร์การ์ดเสียงลงทับไปใหม่ ซึ้งมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกขวาที่ไอคอน My computer แล้วเลือกคำสั้ง properties
2. คลิกไปที่แท็ป Device Manager
3. คลิกปุ่ม Refresh เพื่อให้วินโดวส์ทำการค้นหาอุปกรณ์ที่ยังไม่ได้ติดตั้งไดรเวอร์
4. รอสักครู่ก็จะปรากฏหน้าต่าง Add New Hardware wizard ขึ้นมา ซึ่งจะมีตัวเลือก 2 ตัวเลือก คือ
Automatic search . . .
ให้วินโดวส์ทำการค้นหาไดรเวอร์ให้อัตโนมัติ ซึ่งหากว่ามีไดรเวอร์อยู่ในเครื่อง หรือมีแผ่นไดรเวอร์อยู่ในซีดีรอม วินโดวน์ก็จะนำมาติดตั้งให้ทันที
Specify the location
ทำการติดตั้งไดรเวอร์ด้วยตัวเอง
ในที่นี้ขอเลือกตัวเลือก Specify the location…
5. คลิกปุ่ม Next เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
6. เลือกไปที่ตัวเลือก Search for the best… เพื่อให้วินโดวส์ค้นหาไดรเวอร์จากไดรว์ซีดีรอมหรือไดรว์ A
7. คลิกเครื่องหมายถูกหน้าตัวเลือก Removable Media ... เพื่อทำการติดตั้งไดรเวอร์จากแผ่นไดรเวอร์ ซึ่งคุณต้องใส่แผ่นไดรเวอร์ลงไปในซีดีรอมด้วย
8. คลิกปุ่ม Next
9. รอสักครู่วินโดวส์ก็จะทำการค้นหาไดรเวอร์ เมื่อค้นหาพบแล้วก็ให้คลิกปุ่ม Next เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
10. คลิกปุ่ม Finish แล้วรอสักครู่ วินโดวส์ก็จะทำการติดตั้งไดรเวอร์ให้ทันทีจากนั้นก็ให้บูตเครื่องใหม่ เมื่อเข้าสู่วินโดวส์อีกครั้ง ก็จะพบกับไอคอนลำโพงปรากฏอยู่บนทาส์กบาร์แล้ว
แต่ถ้าหากว่าปัญหาเกิดจากไอคอนลำโพงได้ถูกกำหนดให้ไม่แสดงขึ้นมา วิธีแก้ไขก็ต้องเข้าไป กำหนดให้วินโดวส์แสดงไอคอนลำโพงขึ้นมา ซึ่งมีวิธีการทำดังนี้
1. คลิกปุ่ม Start จากนั้นคลิกเลือกตัวเลือก Settings>Control Panel
2. ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Sounds and Multimedia
3. เลือกที่แท็ป Sounds
4. ในส่วนล่างของแท็บ Sounds ให้คลิกเลือกที่ตัวเลือก Show Volume…
5. คลิกปุ่ม OK เพียงเท่านี้ลำโพงก็จะปรากฏอยู่บนทาส์กบาร์แล้ว

6 รหัสอันตรายที่ทำให้เครื่องคุณไม่มีเสียง
ข้อผิดพลาด “ MMSystem263. This is not a registered MCI device
- ข้อผิดพลาด “MIDI output error detected.”
- ข้อผิดพลาด “WAV sound playback error detected”
- ข้อผิดพลาด “No wave device that can play files in the current format is installed.”
- ข้อผิดพลาด “ You audio hardware connot play files like the current file.”
- ข้อผิดพลาด “MMSYSTEM296. The file cannot be played on the specified MCI device.”

หากว่าใช้งานคอมพิวเตอร์อยู่ดี ๆ ปรากฏว่าอยู่ ๆ ก็มีข้อความเหล่านี้ขึ้นมาก็ให้ทำใจได้เลยว่า ตอนนี้กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเสี่ยงวินโดวส์โดยอุปกรณ์ 1 ใน 2 อย่างนี้เป็นตัวก่อปัญหาขึ้นมา Wave Audio device, CD Audio device ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหานั้นก็มีดังนี้ ตรวจสอบว่าการ์ดเสียงของคุณเปิดใช้งานหรือยัง
1. คลิกขวาที่ไอคอน My Computer แล้วเลือกคำสั่ง Properties
2. คลิกไปที่แท็ป Device Manager
3. คลิกเครื่องหมาย (+) ที่ตัวเลือก Sound, Video and Game Controllers
4. ดับเบิ้ลคลิกที่การ์ดเสียง
5. แล้วตรวจสอบว่าที่ตัวเลือก Disable in this hardware profile มีเครื่องหมายถูกอยู่หรือเปล่า ถ้ามีเครื่องหมายถูกหน้าตัว Disable in this hard ware profile อยู่ก็ให้คลิกเครื่องหมายถูกหน้าตัวเลือกนี้ออก
6. คลิกปุ่ม OK 2 ครั้ง แล้ววินโดวส์จะถามว่าต้องการที่บูตเครื่องใหม่หรือไม่ ก็ให้ทำการบูตเครื่องใหม่ เมื่อบูตเครื่องขึ้นมาก็ลองตรวจดูว่ามีเสียงออกมาหรือยัง

ตรวจสอบว่าการ์ดเสียงได้รับเลือกให้เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการแล้วหรือยัง
1. ไปไหนส่วน Control Panel แล้วดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Sound and Multimedia เลือกที่แท็บ Audio ในส่วนของ Sound Playback และ Sound Recording ให้ตรวจสอบว่าเลือกการ์ดเสียงในกล่อง Preferred device แล้วหรือยัง ถ้ามีการเลือก (None) หรืออุปกรณ์อื่นในกล่อง preferred device ก็ให้เลือกเป็นรุ่นการ์ดเสียงที่ใช้แทน คลิกปุ่ม OK เพื่อทำการบันทึกค่า

ตรวจสอบว่า วินโดวส์ได้กำหนดค่าให้ใช้คุณลักษณะเสียงของการ์ดเสียงแล้วหรือยัง
1. เข้าไปในส่วน Multimedia ที่ Control Panel แล้วคลิกที่แท็บ Devices คลิกเครื่องหมาย + หน้าตัวเลือก Audio Devices ดับเบิ้ลคลิกที่การ์ดเสียง จากนั้นตรวจสอบว่าได้คลิกเครื่องหมายถูกหน้าตัวเลือก Use audio features on this device แล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ได้เลือกก็ให้คลิกเลือกตัวเลือกนี้ เสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม OK จนกระทั่งกลับไปยัง Control Panel ให้ปิดหน้าต่าง Control Panel แล้วทำการบู๊ตเครื่องใหม่

ตรวจสอบว่าคุณติดตั้งอุปกรณ์ Wave Audio แล้วหรือยัง
1. ให้เข้าไปที่ส่วน Multimedia ใน Control Panel แล้วคลิกที่แท็บ Devices คลิกเครื่องหมาย + หน้าตัวเลือก Media Control Devices ดูให้แน่ใจว่าได้ติดตั้ง Wave Audio Device (Media Control) หรือยังถ้าหากว่ามีการติตตั้งแล้วก็ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ Wave Audio Device (Media Control) ดูให้แน่ใจว่าได้เลือกตัวเลือก Use this Media Control device แล้วถ้ายังก็ให้คลิกเลือก คลิกปุ่ม OK
แต่ถ้ายังไม่ได้ติดตั้ง Wave Audio Device (Media Control) ก็ให้กลับไปหน้า Control Panel ก่อนแล้วให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Add New Hardware คลิกปุ่ม Next ไปเรื่อย ๆ วินโดวส์ ก็จะถามว่าต้องการที่จะให้วินโดวส์ ทำการหาอุปกรณ์ให้โดยอัตโนมัติหรือไม่ ให้เลือกตัวเลือก No. I want to select….. คลิกปุ่ม Next เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
ภายใต้ส่วนของ Hardware types ให้คลิกเลือกตัวเลือก Sound, Video and Game Controllers คลิกปุ่ม Next เพื่อทำขั้นตอนต่อไป ในส่วนของ Manufacturers ให้เลือกตัวเลือก Microsoft MCI แล้วให้คลิกเลือกตัวเลือก Wave Audio Device (Media Control) ในส่วนของ Models คลิกปุ่ม Next ต่อมาคลิกปุ่ม Finish
ถ้าได้รับแจ้งให้ใส่ซีดีรอมติดตั้งโปรแกรมวินโดวส์ ก็ให้ใส่แผ่นติดตั้งลงไป แล้วคลิกปุ่ม OK เลือกไปที่โฟลเดอร์วินโดวส์ที่อยู่ในแผ่นซีดีรอม จากนั้นก็คลิกปุ่ม OK สุดท้ายวินโดวส์ก็จะทำการติดตั้งไฟล์ เมื่อติดตั้งเสร็จวินโดวส์จะให้ทำการบู๊ตเครื่องใหม่ ก็ให้คลิกปุ่ม Yes ได้ทันที เมื่อเข้าวินโดวส์อีกครั้งก็ให้ลองตรวจสอบดูว่า ปัญหาแก้ไขได้แล้วหรือยัง

ตรวจสอบว่าคุณติดตั้งอุปกรณ์เสียงซีดีแล้วหรือยัง
1. ขั้นแรกให้เข้าไปในส่วน Multimedia ของ Control Panel แล้วคลิกแท็บ Devices คลิกเครื่องหมาย + หน้าตัวเลือก Media Control Devices
ดูให้แน่ใจว่าการแสดง CD Audio Device (Media Control) ในรายการแล้วหรือยัง ถ้ามีการแสดงอุปกรณ์นี้ในรายการแล้ว ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวเลือก CD Audio Device (Media Control) ดูให้แน่ใจว่าได้เลือก Use this Media Control dอvice แล้วหรือยัง
ถ้ายังก็ให้คลิกเลือกตัวเลือก Use this Media Control device จากนั้นคลิกปุ่ม OK จนกระทั่งกลับเข้าสู่ส่วนของ Control Panel อีกครั้ง ก็ให้คุณลองทดสอบดูว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้วหรือยัง
ในกรณีที่ไม่มีการแสดงอุปกรณ์ CD Audio Device (Media Control) นี้ในรายการ ก็ให้ติดตั้งอุปกรณ์นี้ ในส่วนของ Models ก็ให้เลือกตัวเลือก CD Audio Device (Media Control) แทนเท่านั้นเองครับ

วิธีแก้ไขภาพกระตุกเมื่อชมภาพยนตร์
ในการชมภาพยนตร์นั้นหากว่าอัตราการรีเฟรซภาพ (การกะพริบของหน้าจอ) ไม่เร็วภาพที่ออกมาก็จะมีอาการกระตุก ๆ แต่อาการกระตุกก็อาจเกิดจากเครื่องเล่นซีดีเก่าเกินไปหรือแผ่นที่ดูนั้นอาจไม่ดีก็ได้ ซึ่งหากว่ามีการรีเฟรซแล้วอาการกระตุกยังไม่หาย ก็ให้ตรวจสอบจากจุดนี้ด้วยโดยขั้นตอนการปรับอัตราการรีเฟรซของภาพให้เร็วขึ้นก็สามารถทำได้ดังนี้
1. คลิกขวาบนพื้นที่ว่าง ๆ ของเดสก์ทอป แล้วเลือกไปที่คำสั่ง Properties
2. คลิกไปที่แท็ป Settings
3. เลือกสีในส่วนของ Color เป็น 256 Color
4. เลือกความละเอียดในส่วนของ Screen ไปที่ 640 by 480 pixels
5. คลิกปุ่ม Ok เพื่อทำการบันทึกค่า เพียงเท่านี้ก็จะทำให้อัตราการรีเฟรซของภาพเร็วขึ้นแล้วครับ

วิธีการปรับแต่งไมโครโฟน
ในการปรับแต่งไมโครโฟนนั้นสามารถปรับแต่ได้ในส่วนของ Sound ที่อยู่ใน Control Panel โดยเมื่อทำการเสียบไมโครโฟนลงไปในซาวน์การ์ดแล้วก็สามารถทำงานได้ทันที แต่ในบางครั้งเราอาจจะไปปิดเสียงของไมโครโฟนไว้ ผลที่ตามมาเมื่อพูดใส่โมโครโฟนก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น (ทำให้หลายคนคิดไปว่าไมโครโฟนเสียแน่ ๆ ) ซึ่งขั้นตอนในการใช้ไมค์นั้นสามารถทำได้ดังนี้
1. ดับเบิ้ลคลิกไอคอนรูปลำโพงข้างล่างทางซ้ายมือของจอภาพ
2. คลิกเมนูคำสั่ง Option>Properties
3. จะพบตัวเลือกให้เลือกอยู่ 2 ตัวเลือกคือ
- Playback
แสดงรายละเอียดของเสียที่จะออกมา
- Recording
แสดงรายละเอียดของการปรับรายละเอียดของการอัดเสียง ก็ให้เลือกที่ตัวเลือกแรก
4. คลิกเครื่องหมายถูกหน้าตัวเลือก Microphone ในส่วนของ Show all…
5. คลิกปุ่ม OK
6. เพียงเท่านี้ก็สามารถปรับเสียงดัง-เบาได้แล้ว โดยการเลื่อนตัวปรับระดับเสียงในส่วนของ Microphone
7. หากว่าต้องการปรับรายละเอียดเพิ่มเติมของไมโครโฟน ก็ให้คลิกปุ่ม Advanced
8. ซึ่งเราสามารถปรับเสียงสูง (Treble) เสียงต่ำ (Bass) ได้ในส่วนของ Tone Controls
9. เมื่อทำการปรับแต่งจนพอใจแล้ว ก็ให้คลิกปุ่ม Close เท่านี้ก็สามารถใช้งานไมโครโฟนได้แล้วครับ

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การติดตั้งฟอนต์ใหม่ ๆ ให้ วินโดวส์

การติดตั้ง Font ใหม่ ๆ เพิ่มเติม ให้กับระบบ Windows และ PhotoShop
โดยปกติแล้วใน Windows จะมีรายชื่อของ Font ที่สามารถใช้งานได้เลยมาให้อยู่จำนวนหนึ่งแล้ว แต่สำหรับบางโปรแกรมเช่น Photo Shop อาจจะไม่สามารถใช้งาน Font ที่เป็นภาษาไทยได้หรือบางครั้ง เราต้องการเพิ่มเติมรายชื่อ Font เข้าไปใน Windows วิธีการง่าย ๆ คือไปหา Download Font มาก่อน แล้วทำการ Setup หรือติดตั้งเข้าไป
สำหรับวิธีการติดตั้ง Font เพิ่มเติม เท่าที่เคยพบมาก็มีอยู่หลายวิธี ขอยกตัวอย่างแบบง่าย ๆ ดังนี้

สำหรับ Font ของ Windows ทั่ว ๆ ไป ทำการ Copy ไฟล์ของ Font ไปเก็บไว้ใน C:\WINDOWS\FONTS
ใช้วิธีการ Install New Font ลงใน Windows จากเมนู Control Panel
สำหรับ Font ของ Photoshop ทำการการ Copy ไฟล์ของ Font ไปเก็บไว้ใน C:\Program Files\Common Files\Adobe\Fonts อย่าลืมว่า Font ที่จะใช้งานกับ Photoshop ได้ต้องมีการแก้ไข code มาเรียบร้อยแล้วก่อนนะ
สำหรับ Photoshop ก็มีอีกวิธีหนึ่ง คือใช้ Plug In ชื่อ Extensis Phototext 2.0 (Free Ware) จาก http://www.extensis.com/
ในที่นี้ จะขอแค่แนะนำวิธีการ Install New Font มาเป็นตัวอย่างให้ดูกัน โดยที่สมมติว่า ได้ทำการหาดาวน์โหลด Font ที่ต้องการติดตั้งเพิ่ม เตรียมไว้แลัว


เรียก Control Panel โดยกดที่ Start เลือก Settings และ Control Panel แล้วดับเบิ้ลคลิกที่ Fonts


จะเห็นรายชื่อของ Font ที่ Windows รู้จัก หากต้องการเพิ่มเติม Font เลือกที่เมนู File เลือก Install New Font...


เปลี่ยนที่ Drives ให้เป็น Drives ที่เก็บ Font ที่ต้องการจะติดตั้งเพิ่มเติม เลือกที่ Folders ให้เป็น Folder ที่เก็บ Font จะปรากฏรายชื่อของ Font ที่หาพบในช่อง List of fonts ให้กดที่ Select All หรือเลือก Font ที่ต้องการติดตั้งแล้วกด OK


รอสักครู่ จะปรากฏรายชื่อ Font ที่ติดตั้งเพิ่มเติมเข้าไปใหม่ หลังจากนี้ โปรแกรมต่าง ๆ ก็จะรู้จักและสามารถใช้งาน Font เหล่านี้ได้แล้ว และก็ระวังไว้อีกนิด คือจำนวนของ Font ที่จะติดตั้งเพิ่มเข้าไปใน Windows จะจำกัดที่ประมาณ 1,100 ชื่อซึ่งถ้าหากติดตั้งมากเกินไป อาจจะก่อให้เกิดปัญหากับ Windows ได้

แผนผังกระบวนการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์



หมดปัญญาซ่อมเองทำอย่างไร ? ปัญหาหรืออาการเสียหลายอย่างจำเป็นจะต้องใช้ทักษะในการตรวจซ่อมสูง ซึ่งต้องอาศัยช่างที่มีความเชี่ยวชาญหรือชำนาญเป็นพิเศษ แต่ถ้าคุณไม่มีก็อย่าเสี่ยงซ่อมเอง เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ทางที่ดีส่งซ่อมดีกว่า เช่น งานบัดกรีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิค เปลี่ยนแผ่นวงจรบนฮาร์ดดิสก์ ซ่อมเมนบอร์ด หลดภาพของจอมอนิเตอร์เสื่อม เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้แนะนำให้ส่งซ่อมดีกว่า หรือถ้าอุปกรณ์ ยังอยู่ในประกันก็ส่งเคลมดีที่สุด

เครดิตบีคอมดอทเน็ต

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การตั้งค่าฟอนต์ไทยใน Winamp 5.x



เมื่อติดตั้ง Winamp Version 5.x ค่าที่ตั้งไว้เดิมจะกำหนดให้ใช้ฟอนต์ Arial
ทำให้ภาษาไทยไม่สามารถแสดงได้อย่างถูกต้อง
ทั้งในส่วนของ Modern Skin
ดังแสดงในภาพข้างบน (ซ้าย)
และส่วนของ Playlist Editor
ดังแสดงในภาพข้างบน (ขวา)


การเข้าไปเปลี่ยนการตั้งค่าให้ใช้ฟอนต์ภาษาไทย
ให้เข้าสู่หน้าต่าง Winamp Preferences
ซึ่งสามารถเข้าได้ทั้งจากเมนู Options - Preferences ในหน้าต่างหลัก
ดังแสดงในภาพข้างบน (ซ้าย)
และจากเมนู Playlist - Playlist preferences ในหน้าต่าง Play List Editor
ดังแสดงในภาพข้างบน (ขวา)
ค่าเดิม

ในหน้าต่าง Winamp Preferences
ภายใต้หัวข้อ Modern Skins
ให้คลิกแท็บ Font Rendering
จะพบการตั้งค่าเดิม กำหนดให้ใช้ฟอนต์ Arial
และมีการอนุญาตให้ใช้ฟอนต์ชนิด bitmap
การตั้งค่าใหม่

ให้ยกเลิก Allow use of bitmap fonts that have not been mapped.
โดยให้คลิกที่ช่องสี่เหลี่ยมหน้าข้อความดังกล่าวเพื่อให้เครื่องหมายถูกหายไป
เมื่อทำดังนี้ จะทำให้สามารถตั้งค่าในกรอบ TrueType Replacement for Winamp Charset bitmap fonts ได้
ให้ทำการเปลี่ยนฟอนต์
ในกรอบ TrueType Replacement for Winamp Charset bitmap fonts
ให้เป็นฟอนต์ไทย เช่น Microsoft Sans Serif
และควรเปลี่ยนฟอนต์ในกรอบ Default / Fallback
ให้เป็นฟอนต์ไทย เช่น Microsoft Sans Serif ด้วย

ภาพข้างบนเป็นการเปลี่ยนฟอนต์
ในกรอบ TrueType Replacement for Winamp Charset bitmap fonts
ไปใช้ฟอนต์ CordiaUPC

ภาพข้างบนเป็นการเปลี่ยนฟอนต์
ในกรอบ TrueType Replacement for Winamp Charset bitmap fonts
ไปใช้ฟอนต์ AngsanaUPC


แล้วให้สังเกตหน้าต่างหลักของ Winamp
จะแสดงภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
ภาพข้างบนเป็นการแสดงฟอนต์ Microsoft Sans Serif

ภาพข้างบนเป็นการแสดงฟอนต์ CordiaUPC

ภาพข้างบนเป็นการแสดงฟอนต์ AngsanaUPC

การตั้งค่าฟอนต์ไทยในส่วนของ Playlist Editor
ค่าเดิม

ในหน้าต่าง Winamp Preferences
ภายใต้หัวข้อ playlist
จะพบการตั้งค่าเดิม กำหนดให้ใช้ pack font จาก skin หรือ language
และกำหนดให้ใช้ฟอนต์ Arial ขนาด 11 pixels
การตั้งค่าใหม่

ให้ยกเลิก Use skin or language pack font
โดยให้คลิกที่ช่องสี่เหลี่ยมหน้าข้อความดังกล่าวเพื่อให้เครื่องหมายถูกหายไป
และในกรอบรายการสำหรับเลือกฟอนต์ที่จะใช้ (Use font :)
ให้เปลี่ยนไปใช้ฟอนต์ภาษาไทย เช่น Microsoft Sans Serif
และเปลี่ยนขนาดฟอนต์ให้ใหญ่ขึ้น เช่นให้เป็น 16 pixels

ภาพข้างบนเป็นการเปลี่ยนไปใช้ฟอนต์ CordiaUPC ขนาด 16 pixels


ภาพข้างบนเป็นการเปลี่ยนไปใช้ฟอนต์ AngsanaUPC ขนาด 16 pixels

แล้วให้สังเกตหน้าต่าง Playlist Editor
จะแสดงภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
ภาพข้างบนเป็นการแสดงฟอนต์ Microsoft Sans Serif

ภาพข้างบนเป็นการแสดงฟอนต์ CordiaUPC

ภาพข้างบนเป็นการแสดงฟอนต์ AngsanaUPC

firefox โปรแกรมท่องเว็บที่ดีกว่า



Firefox คืออะไร

หลาย ๆ คนที่เล่นเน็ทเป็นเปิดเว็บไซท์เป็นคงจะรู้จักกับคำว่าเว็บบราวเซอร์ หรือโปรแกรมท่องเว็บ ส่วนใหญ่แล้วเราคงจะรู้จักกันแต่ Internet Explorer ของ Microsoft จอมผูกขาด คุณรู้หรือเปล่าว่า IE ที่คุณใช้อยู่นั้น ณ เวลาปัจจุบันมันไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย เพราะว่าทางทีมงานเค้าไม่ได้พัฒนามานานแล้ว ฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องถามหา
ซึ่ง Firefox นั้นเป็นอินเทอร์เน็ทบราวเซอร์ตัวใหม่ที่จะเข้ามาแข่งกับ IE < Internet Explorer> นำทีมสร้างโดย Mozilla โดยมีนักพัฒนาต่อยอดอยู่ทั่วทุกมุมโลก คุณสมบัติของ Firefox ที่เด่นกว่า IE คือ โปรแกรมมีขนาดเล็กกว่าทำให้การโหลดข้อมูล ทางหน้าเว็บเพจทำได้รวดเร็ว ใช้งานได้สะดวก แท็บด้านบนทำให้ทำให้เข้าได้หลายเว็บไซด์พร้อมๆกันโดยไม่ต้องเปิด window ใหม่ อีกทั้งยังมีการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องอินเทอร์เน็ต เช่น เมนูของGoogle สำหรับการค้นหาข้อมูล

Firefox ดียังไง

Firefox เป็น Browser ที่มีกระแสการตอบรับอย่างรวดเร็วเมื่อต้นปี 2006 ซึ่งขณะนี้มีผู้ใช้ Browser ตัวนี้เพิ่มมากขึ้นทุกวัน มียอดการ download ไปใช้งานเกือบ 300 ล้านครั้งแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่า Firefox ต้องมีอะไรสักอย่างที่ดึงดูดนักท่องเว็บเหล่านั้น จุดเด่นที่สำคัญของ Mozilla Firefox ที่น่ากล่าวถึงเป็นอย่างแรกคือ ความเป็นโปรแกรม open source ที่พัฒนาโดยองค์การที่ไม่หวังผลกำไรและคนทั่วไป (ที่มีความสามารถในการเขียนโปรแกรม) จะเรียกว่า โปรแกรมเพื่อประชาชนโดยประชาชนก็น่าจะได

คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Firefox
เป็นโปรแกรม Free Download ไม่ต้องตรวจสอบอะไร โหลดมาใช้ได้เลย
ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเล็ก ใช้เวลาในการดาวโหลดไม่นาน
ไม่แฮงค์บ่อย ปลอดภัยจาก spy ware ต่างๆ
แก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีทีมงานพัฒนาอยู่ทั่วโลก มีการพัฒนาตลอดเวลา
สนับสนุนการใช้งานทั้ง Window MAX OS และ Linux ด้วย
มีลูกเล่นต่างๆ มากมาย ที่ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาและการใช้งานได้ตามความถนัดของผู้ใช้ ด้วย themes, extensions ต่างๆ มากมาย

Firefox 2.0 กับ Internet Explorer 7 อะไรน่าใช้กว่า
หากคุณไม่เคยใช้ Firefox มาก่อน ใช้แต่ Internet Explorer เพราะคิดว่าเป็นโปรแกรมตัวเดียวที่เปิดเว็บได้ และคุณได้อับเดทมันให้เป็น IE 7 ที่นำระบบ Tab มาใช้ และผนวกเอา Search Engine เข้าไปไว้ในตัว คุณก็คงคิดว่า โอ้มันช่างดีจริง ๆ เลย คงเป็นวิวัฒนาการใหม่ของโลกไซเบอร์ แต่ในความจริงแล้ว คุณสมบัติดังกล่าว มีใช้ใน Firefox กว่า 3 ปีแล้ว พูดแบบภาษาชาวบ้านว่า Internet Explorer ไปลอก Firefox มา เนื่องจากเหตุที่ว่า Firefox นั้นเป็นโปรแกรมประเภท Open Source แจกฟรี (ทั้งตัวโปรแกรมและต้นฉบับโปรแกรม)

สถิติ Firefox และยอดผู้ดาวน์โหลด

ยอด Download Firefox มีเท่าไร
Firefox ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งยอดดาวน์โหลด ณ ปัจจุบันคือ 561,757,717 ครั้ง ถือว่าได้รับการตอบรับเยอะมาก ๆ เพราะ สถิติการ Download Firefox ช่วงต้นปี 2005 มีประมาณ 10 ล้านครั้งเอง ปลายปีมียอด Download กว่า 100,000,000 ครั้งแล้ว ช่วงปลายปี 2006 มียอดการดาวน์โหลดเกือบ 300 ล้านครั้ง ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ผู้คนให้ความสนใจในความปลอดภัยของโปรแกรมเปิดเว็บกันมากขึ้น

สถิติการใช้ Firefox ต่างประเทศ
ประเทศฝั่งตะวันตกนิยมใช้ Firefox กันมากว่าทางฝั่งเอเชียเรา ที่เยอะมันมีสถิติ การใช้ Firefox อยู่ประมาณ 30% ส่วนทางญี่ปุ่น แค่ 3% เอง มีสถิติมาให้ดูกันซึ่ง ติดตามมาตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว ซึ่งอย่างที่บอกว่ามียอดการใช้ Firefox เพิ่มขึ้นเกือบ 30 % แล้ว คลิกที่นี่ เพื่อดูสถิติจากเว็บ www.w3schools.com จะเห็นได้ว่าสถิติการใช้ Firefox เพิ่มขึ้นทุกเดือน กลับกันสถิติของ IE กลับลดลงเรื่อย ๆ

สถิติการใช้ Firefox ในประเทศไทย
คงต้องยอมรับกันว่าในประเทศไทยนั้นกว่า 90% ที่ยังไม่รู้ว่ามี Firefox ไม่รู้ว่า Firefox คืออะไร ดังนั้นในประเทศไทยจึงมียอดผู้ใช้งานภาพรวม ไม่ถึง 4 % (อ้างอิงจาก truehit) แต่สำหรับบางเว็บเช่น เว็บกอหญ้า.คอม มียอดผู้ใช้ Firefox กว่า 20% เราก็หวังว่าเว็บนี้จะช่วยกระตุ้น ให้คนไทย ใช้งาน Firefox เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้คนไทยได้รู้จักโปรแกรมเปิดเว็บที่ดีกว่า เร็วกว่า และเสถียรกว่า

การปรังแต่ง Firefox ให้รองรับภาษาไทย

Firefox กับเว็บภาษาไทย
เมื่อเริ่มต้นใช้งาน Firefox คุณสามารถเปิดเว็บได้เหมือนกับ Internet Explorer แต่เปิดบางเว็บแล้วมีปัญหา อ่านภาษาไทยไม่ได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่ได้เป็นที่ Firefox ประการใด แต่เกิดจากตัวเว็บเองที่ออกแบบมาไม่ได้มาตรฐาน ไม่รองรับกับ Web Browser ตัวอื่น ซึ่งในเมืองไทย พบเห็นได้หลายเว็บ หากแต่เข้าเว็บที่ได้มาตรฐานทั่วไปจะไม่เจอปัญหานี้ครับ

การปรับแต่ง Firefox ให้รองรับภาษาไทย
ในการปรับรายละเอียดให้กับ Firefox นั้น ทางเว็บกิมหยง.คอม ได้แนะนำตามวิธีการที่ง่ายและนิยมใช้ มิใช้เป็นมาตรฐานตายตัว การปรับแต่งนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับพอใจของผู้ใช้งานเอง ดังนั้นหากมีการปรับแต่งด้วยวิธีการแบบอื่น ที่ต่างไปจากเว็บนี้ก็ไม่ถือว่าผิดแต่ประการใด

เริ่มต้นการปรับแต่งภาษาไทยให้ Firefox คลิก Tools ----> Options . . .



จากนั้นปรากฎหน้าต่าง options ดังรูป



ที่หน้าต่าง Options คลิก Tab Content เพื่อปรับแต่ง Font ตรง หัวข้อ Fonts & Colors ส่วนของ Default font เปลี่ยนเป็น MS Sans Serif รูปแบบอักษรที่นิยมใช้ในเว็บ จากนั้นคลิกปุ่ม Advanced เพื่อปรับแต่งรายละเอียดเพิ่มเติม



ในหน้าต่าง Font ไว้สำหรับกำหนดรายละเอียดของ แบบอักษรตามต้องการ ให้ปรับเปลี่ยนรายละเอียดตามรูป จากนั้นก็คลิกปุ่ม OK เพื่อออกจากการติดตั้ง เพียงเท่านี้ Firefox ก็จะโลดแล่น รองรับการใช้งานกับเว็บภาษาไทย เหมือนปรกติแล้วครับ


การติดตั้ง Plugin Flash Player ให้กับ Firefox

เริ่มใช้งานครั้งแรก อาจไม่สมบูรณ์
ในการใช้งาน Firefox ครั้งแรกนั้น เราอาจเสียเวลาในการปรับแต่งบ้างเล็กน้อย ซึ่งหากพูดกันจริง ๆ ก็เป็นเหมือนกัน ทุกโปรแกรม สำหรับ Firefox เมื่อเราไปเปิดบางเว็บที่มีลูกเล่นเยอะ ๆ จะสังเกตได้ว่า Firefox จะแสดงบางส่วนออกมาไม่สมบูรณ์ โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนให้ติดตั้ง Plugin เพิ่มเติม



หากคุณเปิดเว็บแล้วเจอ กรณีดังกล่าว แสดงว่า คุณยังไม่ได้ติดตั้ง Plugin บางตัว ส่วนใหญ่จะเป็น Flash Player วิธีการแก้ ให้คลิกคลิก ปุ่ม Install Missing Plugins.... หรือคลิกตรงบริเวณ Click here to download plugin.



จากรูปโปรแกรมจะทำการตรวจสอบว่าเป็น Plugin ชนิดไหน จากนั้นให้เราคลิกเลือก Plugin ที่ต้องการติดตั้ง จากนั้นคลิกปุ่ม Next >



เมื่อคลิกปุ่ม Next โปรแกรมจะเข้าสู่หน้า ติดตั้ง Flash Player ให้เราคลิก I agree เพื่อยอมรับเงื่อนไข ข้อตกลงในการใช้งาน จาะนั้นคลิกปุ่ม Next >



Firefox จะทำการติดตั้ง Plugin เมื่อเสร็จแล้วโปรแกรมจะแจ้งให้ทราบว่าได้ติดตั้ง Plugin เรียบร้อยแล้ว จากนั้นคลิกปุ่ม Finish หลักการติดตั้ง Firefox จะทำการเปิดหน้านั้นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง พร้อมกับความสามารถในการเล่น Flash Animations ในการติดตั้ง Plugin ตัวอื่น ๆ จะอยู่ในรูปแบบเดียวกัน หรือคลิกเข้าสู่หน้า Plugin | Firefox Add-ons เพื่อเลือกที่จะติดตั้งเอง

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Orbit Downloader อีกหนึ่งโปรแกรมดาวน์โหลดที่ยอดนิยม

Download โปรแกรม Orbit ได้ที่นี่


หน้าตาโปรแกรมเมื่อดับเบิ้ลคลิ๊กติดตั้ง

1.ติ๊กที่หน้าข้อความ Exit IE and Friefox automatically when click Next เพื่อไม่ให้มีปัญหาระหว่างเวลาติดตั้ง


2.จะติ๊กตามผมติ๊กก็ได้นะตามนั้น

3.เสร็จแล้ว

หน้าตาเมื่อเริ่มโปรแกรม

4.กด Preference เพื่อตั้งรายละเอียดอื่นๆได้อีก

5.หน้าต่าง General ติ๊กตามนี้ก็ได้

6.แนะนำให้เลือกที่ Desktop จะได้ไม่ต้องไปหาให้วุ่นวาย

7.แนะนำให้เลือกจำนวนที่ดาวน์โหลดพร้อมกันเป็น 1 เพราะบางเว็บถึงจะอณุญาตให้ใช้ตัวช่วยโหลดได้ แต่ก็ไม่ได้อณุญาตให้ดาวน์โหลดพร้อมกันทีละมากๆ
ดังนั้น เมื่อดาวน์โหลดเสร็จไปแล้ว 1 ลิ้งค์ โปรแกรมจะเริ่มดาวน์โหลดลิ้งค์ถัดมาตามลำดับทันที

8.อันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก หาก Orbit ไม่ทำงานบน Firefox ก็ให้มาติ๊กในนี้ หรือ หากโหลด Browser อื่นมาใช้ แล้วต้องการให้ทำงานร่วม
ก็กลับมาติ๊กที่หน้าต่างนี้

winamp + วิธีติดตั้ง

Download โปรแกรม winamp



คิดว่าหลายท่านคงพอรู้จักกับ Winamp กันบ้างหรืออาจจะเคยได้ยินมาบ้าง Winamp เป็นโปรแกรมสำหรับเล่นเพลงแบบ MP3 ยอดนิยม สามารถเล่นเพลงในรูปแบบอื่น ๆ ได้ด้วย มีหน้ากากหรือ Skin สำหรับเปลี่ยนแปลงหน้าตาได้ นอกจากนี้ ยังสามารถ เล่นเพลงของ CD Audio ธรรมดาได้ มีการปรับแต่งเสียง และอื่น ๆ อีกมากมาย ตรงนี้จะแนะนำวิธีการติดตั้งโปรแกรม Winamp Version 2.62 ซึ่งสามารถหา Download ได้จาก http://www.winamp.com มาดูวิธีการติดตั้งกัน เริ่มจากทำการ Download มาเก็บไว้ก่อน แล้วเริ่มต้นการติดตั้ง



กด Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป



กด Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป



กด Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป



โปรแกรมจะเริ่มต้นติดตั้ง



ตรงนี้จะให้เลือกชนิดของการ connect to the Internet ว่าใช้แบบ LAN, Dial-Up หรือไม่มี Internet หรือถ้าหากจะใช้ Winamp เพื่อฟังเพลงจากเครื่องเราอย่างเดียวก็เลือก No Internet connection available กด Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป



จบการติดตั้ง กดที่ Run Winamp เพื่อเริ่มต้นโปรแกรม



หลังจากเริ่มต้นใช้งานครั้งแรก หน้าตาจะออกมาแบบนี้นะให้ปิดหน้าต่างของ minibrowser



ทำการ Setup ค่าต่าง ๆ ของ Preferences ก่อนซึ่งต่อไปนี้จะเป็นค่าที่แนะนำ อาจจะไม่ต้องตั้งตามนี้ก็ได้ โดยกด Ctrl+P หรือจะเลือกจากเมนูแบบด้านบนนี้ก็ได้



เลือกชนิดของ Internet setting ตามต้องการ



เลือกรูปแบบของ Icon ที่จะให้แสดงทางด้านขวามือ



ตรงนี้ใช้สำหรับการเลือก Skin หรือหน้ากากของ Winamp โดยไปหา Download Skin มาแล้วทำการ copy มาใส่ที่ Folder ชื่อ Skin ของ Winamp และเข้ามาเลือกที่นี่ว่าจะใช้ Skin อันไหน




Download โปรแกรมอื่นๆ ได้อีกเพียบที่นี่